กว่าจะมาเป็นน้ำหอม

การแข่งขันการตลาดน้ำหอมของโลกได้แข่งขันกันมากและน้ำหอมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อแบรนด์ นักปรุงน้ำหอมทั่วโลกต่างออกแบบกลิ่นเฉพาะสำหรับแบรนด์

มีการทำวิจัยอย่างกว้างขวางโดยมีเป้าหมายในการสร้างน้ำหอมแบรนด์เฉพาะที่ตรงกับความต้องการของผลิตภัณฑ์ และขั้นตอนหนึ่งในนั้นก็คือสภาพแวดล้อมส่งผลให้การสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมได้อย่างมีคุณภาพ

การสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมขึ้นมาต้องมีฝฝีมือทั้งด้านศิลปะ เทคนิคการสร้างกลิ่น รวมไปถึงต้องเข้าใจว่าแต่ละวัตถุดิบมีความสัมพันธ์กับความงามอย่างไร นักปรุงน้ำหอมจะวิเคราะห์และสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโดยคุณลักษณะของนักปรุงน้ำหอมที่ประกอบด้วย

1.ความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้น้ำหอมกลายเป็นกลิ่นสมบูรณ์แบบ

2.ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาลิตภัณฑ์ น้ำหอมที่ได้รับความนิยมหลากหลาย ได้แก่ การดูแลรักษา เป็นต้น

3.ความรู้ความเข้าใจเรื่องเคมีและการผสมกันของกลิ่น หลังจากที่นักปรุงน้ำหอมได้กลิ่นน้ำหอมแล้วจะส่งต่อไปที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินกลิ่นน้ำหอม เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหอมที่สร้างขึ้นมามีความสมบูรณ์แบบ

นอกจากนั้นส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและการประยุกต์ ซึ่งถือว่าผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นหัวใจสำคัญช่วยตรวจสอบความพร้อมใช้งานของน้ำหอมในเรื่อง เทคนิค กระบวนการพัฒนา และแก้ไขปัญหาต่างๆ ของแบรนด์

Sillage คืออะไรในน้ำหอม

คนส่วนมากที่เรียนรู้เรื่องน้ำหอมเชื่อว่าส่วนใหญ่จะต้องสะดุดตากับคำนี้แน่นอน Sillage ซึ่งคำนี้เป็นภาษาฝรั่งเศสอ่านออกเสียงว่า “see-Yahzh” โดยมีหลายความหมายหลากหลาย

แต่หากเป็นคำเฉพาะของน้ำหอมแล้วก็จะหมายความว่ากลิ่นที่กระจายออกไปในอากาศและยังคงหลงเหลือกลิ่นอยู่ตามทางที่เราปรากฎตัวขึ้นหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เส้นทางน้ำหอม”

น้ำหอมที่มีส่วนผสมของ sillage เป็นจำนวนมากในท้องตลาดมีมากมายแต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหอมรุ่นเก่าที่ออกแบบมาให้ใช้กับช่วงฤดูที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเพราะความเย็นจะทำให้กลิ่นน้ำหอมไม่กระจายออกไปในอากาศ

และคุณจงจำไว้ให้ดีเมื่อฤดูร้อนมาเยือนคุณควรจะมองหากลิ่นน้ำหอมที่มี Sillage น้อยลงหรือฉีดน้ำหอมแต่เพียงเล็กน้อยเพื่อที่คนรอบข้างจะไม่รังเกียจ หรือไม่คุณอาจจะพิจารณาจากการเลือกน้ำหอมที่ความเข้มข้น EDP EDT

เพราะความฉุนของกลิ่นจะลดลงไปเนื่องจากมีปริมาณแอลกอฮอล์มาก สุดท้ายนี้หากคุณอยากรู้ว่าน้ำหอมขวดนี้มี Sillage ผสมอยู่มากหรือน้อยก็สามารถลองกทดสอบเส้นทางน้ำหอมของคุณได้ วิธีทำก็คือเลือกกลิ่นน้ำหอมที่คุณชื่นชอบจากนั้นฉีดน้ำหอมเข้าไปในห้องที่ปิดและเมื่อเวลาผ่านไปสิบนาทีต่อมาให้คุณเดินเข้าไปในห้องและลองสูดลมหายใจเข้า ทันทีที่กลิ่นเข้าสู่จมูก คุณจะรับรู้ได้ถึงปริมาณ Sillage ที่ใส่มานั้นทำให้กลิ่นน้ำหอมมีกลิ่นแรงหรือกลิ่นที่พอดี

 

คนส่วนใหญ่ใช้น้ำหอมเพื่ออะไร?

น้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ช่วงแรกของอารยธรรมชาวกรีกและชาวโรมัน โดยพวกเขาจะใช้กลิ่นหอมในห้องอาบน้ำเพื่อวัตถุประสงค์ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

แต่ในปัจจุบันวัตถุประสงค์ของการใช้น้ำหอมได้เปลี่ยนไปจากเดิมเหมือนกับว่าใช้เป็นสัญญาลักษณ์ของสังคมที่พัฒนาแล้ว เพราะน้ำหอมสามารุกระตุ้นความทรงจำ เพิ่มความมั่นใจ ทำให้ผู้คนมีความสุข

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบน้ำหอมส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับรสนิยม คุณอาจจะคิดว่าคนเราใช้น้ำหอมเพื่อเรียกเสน่ห์เพียงอย่างเดียวแต่จริง ๆแล้วกลับไม่ใช่ทั้งหมด มาร่วมหาเหตุผลที่หลายๆ คนใช้น้ำหอมกัน

1.น้ำหอมกระตุ้นฟีโรโมนประเภทฮอร์โมน ซึ่งจะไปกระตุ้นความต้องการทางเพศมากขึ้นแก่ผู้พบเห็น

2.น้ำหอมจะทำให้คุณกับคนรักเกิดความทรงจำร่วมกัน เราทุกคนมีน้ำหอมที่ชื่นชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มสร้างความทรงจำเกี่ยวกับกลิ่น กลิ่นของน้ำหอมก็จะคอยย้ำเตือนถึงช่วงเวลาอันแสนพิเศษเหมือนกับว่าคุณได้อยู่ในเดทแรกอีกครั้งแบบไม่รู้จบ

3.น้ำหอมมีพลังที่จะนำคุณไปยังสถานที่สงบและลดความเครียดในตัวคุณลงได้ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายและได้รับพลังด้านบวกเมื่อดมกลิ่นน้ำหอม

4.คนส่วนใหญ่จะใช้น้ำหอมเพื่อแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวและบ่งบอกรสนิยม พวกเขาทั้งหลายจะใช้มันเนื่องในโอกาสพิเศษหรืองานที่พบปะผู้คนจำนวนมาก เพื่อแสดงถึงสไตล์และตัวตนของคุณที่เป็นเอกลักษณ์แห่งความสง่างามและความคลาสสิกในตัวคุณเอง

สวรรค์ของกลิ่นน้ำหอม

การเดินทางไปยังประเทศหัวใจของน้ำหอมหรือดินแดนแห่งมนต์สะกดที่มีดอกมะลิเติบโตและความทรงจำอันอ้อยอิ่งอย่างเมือง Grasse

 

เมืองนี้เป็นเมืองที่มีกลิ่นของความรักอบอวนอยู่และเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมน้ำหอมของโลกเป็นเวลา 300 ปีจวบจนถึงปัจจุบัน เมืองแห่งนี้ได้รับการขนานนามของที่ตั้งราวกับมีเวทมนต์สะกด กลิ่นของน้ำฝน กลิ่นของบลูเบอร์รี่ และต้นไม้ รวมตัวกันมาเป็นพลังของกลิ่นน้ำหอมอันทรงพลัง

 

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่หลงใหลในน้ำหอมลองให้กลิ่นนำพาคุณมาซึ่งเมืองนี้สักครั้งในชีวิตดูสิแล้วคุณจะต้องมนต์จากพลังห้าสัมผัสรวมกันเป็นกลิ่นน้ำหอมกระตุ้นความทรงจำอันแข็งแกร่งราวกับคุณย้อนเวลาได้ วัตถุดิบจากขั้วโลกเหนือจรดขั้วโลกใต้ก็ไม่มีสถานที่ใดที่พิเศษไปกว่าเมืองนี้

 

ซึ่งเมือง Grasse จะเต็มไปด้วยวัตถุดิบในการปรุงน้ำหอมชั้นเลิศ และทุ่งดอกมะลิถือเป็นหัวใจสำคัญของที่นี่เพราะมะลิถือเป็นวัตถุดิบหายากและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ

 

ซึ่งมะลิทั่วมุมโลกก็ไม่สามารถทดแทนมะลิจากเมือง Grasse ได้ ด้วยกลิ่นหอมที่ห่อตัวความกับความทรงจำห่อหุ้มดอกเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจึงทำให้น้ำหอมชื่อดังหลายร้อยแบรนด์ต้องใช้เป็นหนึ่งส่วนประกอบ

 

โดยดอกมะลิหนึ่งหมื่นดอกมีน้ำหนักหนึ่งกิโลกรัม นั่นหมายความว่าจะต้องใช้ดอกไม้ถึงแปดล้านดอกสำหรับการปรุงน้ำหอมหนึ่งกิโล

 

จึงทำให้น้ำหอมที่ปรุงจากวัตถุดดิบที่มาจากฝรั่งเศสมีราคาแพงเพราะเป็นน้ำหอมระดับโลกที่ผ่านการเอาใจใส่และพิถีพิถันทุกขั้นตอนนั่นเอง