2 ขั้นตอนเลือกแว่นตากันแดดให้เหมาะกับตัวเอง

เป็นที่รู้กันดี ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อน และมีแสงแดดที่แรง ทำให้หลายคนต้องหาวิธีป้อง ผิว ดวงตา จากแสงแดดที่ร้อนแรง แว่นตากันแดดถือเป็นไอเทม ที่หลายคนนำมาใช้ปกป้องดวงตาจากแสงแดด นอกจากต้องเลือกแว่นตากันแดดที่ดีมีคุณภาพแล้ว เราก็ควรจะต้องเลือกแว่นกันแดดให้เหมาะสมกับรูปหน้าเราด้วย แล้วแว่นตากันแดดแบบไหน ที่เหมาะกับเรา เรามาดู 2 ขั้นตอนในการเลือกแว่นกันแดด ให้เหมาะกับเรากันเลย

Giftgreats แว่นตา

ขั้นตอนที่ 1 เลือกแว่นตากันแดดให้เข้ากับใบหน้า

  • ใบหน้ารูปไข่ ลักษณะของใบหน้ามีระยะห่างของตำแหน่งต่างๆที่ได้สัดส่วน คือ ระยะห่างจากโคนผมถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคางเท่ากัน กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปไข่เป็นกรอบที่มีความกว้างเท่ากัน สามารถเลือกกรอบแว่นได้หลายแบบ แต่ควรหลีกเลี่ยงกรอบแว่นที่มีตำแหน่งขาแว่นต่ำ และมีขนาดใหญ่เกินไป
  • ใบหน้ารูปยาว ลักษณะของใบหน้ามีลักษณะคล้ายกับรูปไข่ แต่มีความยาวมากขึ้นจากหน้าผากถึงคาง หน้าผากกว้าง ไม่มีแก้ม ช่วงคางแคบ กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปยาวเป็นกรอบรูปแบบทรงเรขาคณิต แว่นตาทรงแบบนี้สามารถลดความยาวของใบหน้าได้
  • ใบหน้ารูปกลม ลักษณะของใบหน้ามีความกว้างและยาวเท่าๆกัน บริเวณแก้มกว้าง หน้าผากสั้น กรามแคบ กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปกลมเป็นกรอบแว่นแบบเหลี่ยมกว้างๆ หรือเป็นเหลี่ยมที่มีมุมเฉียงขึ้นเล็กน้อย ตำแหน่งขาแว่นสูงหรืออยู่ตรงกลาง จะช่วยลดความกลมของใบหน้าได้
  • ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลักษณะของใบหน้ามีใบหน้ายาว แก้มแคบ คางยาว ความกว้างบริเวณหน้าผากและขากรรไกรเท่ากันกรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นกรอบทรงกลมหรือกรอบที่มีทรงในแนวนอน ตำแหน่งขาแว่นอยู่ต่ำ หลีกเลี่ยงแว่นตาที่เป็นเหลี่ยมๆ
  • ใบหน้ารูปสามเหลี่ยม ลักษณะของใบหน้ามีหน้าผากกว้างและสูง มุมของกรามชัดเจน คางแหลมจนเห็นได้ชัด กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปสามเหลี่ยมเป็นกรอบแบบโค้งมน ไม่ว่าจะเป็นกรอบแว่นตาทรงกลม ทรงหยดน้ำ และทรงวงรี ตำแหน่งขาแว่นไม่ควรอยู่สูงจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้คางแคบและหน้าผากกว้างมากยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงแว่นตาที่มีทรงเหลี่ยม
  • ใบหน้ารูปเพชร ลักษณะของใบหน้ามีหน้าผากและคางเป็นจุดแคบที่สุดในใบหน้า แต่มีโหนกแก้มที่ชัดที่สุด กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปสามเหลี่ยมเป็นกรอบกรอบแบบโค้งมน ทรงแคทส์อาย หรือกรอบแว่นที่มีกรอบด้านล่างกว้างกว่าส่วนบน จะช่วยบดบังความกว้างของช่วงบนได้และช่วยให้คางเรียวเล็กดูโดดเด่นขึ้น
  • ใบหน้ารูปหัวใจ ลักษณะของใบหน้าคือหน้าผากกว้าง และบริเวณแนวไรผมจะเป็นรูปหัวใจ คางแคบ มีโหนกแก้มเล็กน้อย กรอบแว่นตาที่เหมาะสมกับใบหน้ารูปหัวใจทรงกลมหรือวงรียาวมน และกรอบแว่นต้องบาง มีสีอ่อนข้อสำคัญคือ อย่าเลือกกรอบขนาดใหญ่เกินไปเพราะจะไปเน้นหน้าผากให้ชัดขึ้น

สีของเลนส์แว่นตากันแดดแต่ละสีมีประโยชน์และลักษณะในการใช้ที่แตกต่างกัน ความเข้มแบบเต็มเลนส์ของสีเลนส์แว่นตากันแดด เป็นการย้อมสีในระดับที่มีความเข้มเท่ากันทั้งเลนส์ ซึ่งสามารถจะช่วยป้องกันแสงได้ในปริมาณที่เท่ากันทุกส่วนของเลนส์เหมาะกับการสวมใส่ในบริเวณที่มีแดดจ้า หรือกลางแจ้ง เช่น การขับรถตอนกลางวัน ความเข้มแบบไล่สีของเลนส์แว่นตากันแดด เป็นการย้อมสีแบบไล่ระดับจากความเข้มมากไปหาความเข้มน้อยจากบนลงล่างเหมาะกับการสวมใส่ในบริเวณที่มีแดดไม่จัดมากจนเกินไป เช่น การขับรถตอนกลางคืน

ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลนส์แว่นตากันแดดให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน

  • แว่นตากันแดดเลนส์สีเทา ช่วยกรองแสงแดด ตัดแสงออกจากสายตาของเรา มีข้อดีคือไม่ทำให้สีของวัตถุเปลี่ยนแปลง เหมาะแก่การใส่ทำงานกลางแจ้ง
  • แว่นตากันแดดเลนส์สีน้ำตาล ทำให้มองสีและแสงธรรมชาติได้ชัดเจนขึ้น เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมอง เหมาะใช้ในการขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์ และเหมาะกับคนสายตาสั้น
  • แว่นตากันแดดเลนส์สีเขียว ช่วยกรองแสงแดด ตัดแสงได้เท่ากับเลนส์สีเทา ช่วยให้สบายตา เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และคนสายตายาว
  • แว่นตากันแดดเลนส์สีเหลือง ช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายกับจอประสาทตาได้ดี เพิ่มแสง เพิ่มวิสัยทัศน์ เหมาะกับการใส่ในสภาวะแสงน้อย นิยมนำมาใส่ขับรถในตอนกลางคืน
  • แว่นตากันแดดเลนส์ฉาบปรอท มีอยู่ 2 แบบ คือเลนส์ฉาบปรอทบนเลนส์ใส จะมีลักษณะเป็นเงาสะท้อน มีความเป็นแฟชั่นและสวยโดดเด่น เลนส์ลักษณะนี้กรองแสงได้ดีแต่ไม่เท่าเลนส์สีเทา สามารถใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ดี และสามารถใส่ในร่มได้เช่นกัน อีกลักษณะหนึ่งคือ เลนส์ฉาบปรอทบนเลนส์ที่มีความเข้มค่อนข้างมาก ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานกีฬากลางแจ้งโดยเฉพาะ แต่ก็สามารถนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้ เหมาะกับสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงแบบเฉียบพลัน ช่วยป้องกันอาการหน้ามืดจากแสงที่เปลี่ยนอย่างกะทันหันได้

แว่นตากันแดดนอกจากจะเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่ยอดฮิตแล้วยังมีผลต่อสุขภาพด้วย ดังนั้นการเลือกแว่นตากันแดดให้เหมาะสม จึงมีความสำคัญมากต่อบุคลิกที่ดีของเราทุกคน

 

10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแว่นตา Google

ถ้าเกิดคุณเป็นคนนึงที่ถูกอกถูกใจภาพยนตร์ประเภท Sci-Fi คุณก็น่าจะเคยได้เห็นเทคโนโลยีนำสมัยแบบหุ่นยนต์ที่บินได้ การคุยเฟสทามผ่านทางนาฬิกา โดยมีการยิงสัญญาณภาพไปกลางอากาศ หรือการควบคุมคอมพิวเตอร์โดยการสัมผัส กับข้อมูลที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ถ้าเกิดเป็นในรูปแบบภาพยนตร์เทคโนโลยี แบบนี้เราคงเคยเห็นจนชินตา แต่ถ้าหากเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมาอยู่ในโลกแห่งความจริงหละ คุณคิดว่าจะเป็นอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเทคโนโลยีสุดล้ำที่เหมือนดึงเราเข้าไปอยู่ในโลกภาพยนตร์ Sci-Fi เทคโนโลยีที่เราจะพูดถึงนั่นก็คือ แว่นตาอัจฉริยะจาก Google.com เว็บไซต์ Search Engine ที่เป็นที่รู้จักกันดีของใครหลายๆคน มาดู 10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแว่นตา Google กันเถอะ

แบตเตอรี่ของแว่นตา Google มีความจุ 570 mAh ซึ่งสามารถใช้ได้นานถึง 1 วัน

  • แว่นตา Google ใช้ “เสียง” ในการสั่งงานเป็นหลัก โดยเมื่อคุณต้องการจะสั่งงานแว่นตา คุณต้องเริ่มด้วยการพูดว่า “OK Glass…” แล้วตามด้วยคำสั่งที่เราต้องการ เช่น “Google…” แล้วตามด้วย Keyword คือการใช้ Google Search
  • แว่นตา Google สามารถใช้การเอียงศีรษะเพื่อเลื่อนตำแหน่งของ Cursor ได้อย่างเช่นเมื่อเราได้ข้อมูลจากการค้นใน Google แล้วและเมื่อ Google แสดงผลลัพธ์ที่หน้าจอแล้วเราสามารถเลือกดูผลลัพธ์ได้จาก การ Swipe โดยใช้ศีรษะควบคุมการ Swipe
  • ข้างแว่นตา Google จะมีปุ่มคำว่า Glass อยู่ ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตรวจจับว่ามีการสวมแว่นตาอยู่หรือไม่
  • แว่นตา Google มี Touch Pad ที่ใช้ควบคุมการแสดงผลของหน้าจอ โดยใช้นิ้วมือปัดเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวาของ Touch Pad เพื่อเลื่อนเมนู และปัดนิ้วลงเพื่อเป็นการถอยหลัง (Back) กลับไปก่อนหน้า
  • แว่นตา Google มีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่องถึง 16 GB ใช้ได้จริง 12 GB ซิงค์กับ Google Cloud Storage และมี RAM ขนาด 1 GB
  • กล้องถ่ายรูปของแว่นตาจาก Google ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลสามารถปรับองศาของกล้องได้
  • ความละเอียดในการบันทึกวิดีโอของแว่น Google บันทึกได้ถึง HD 720p
  • แว่นตา Google สามารถเชื่อมต่อกับ Smartphone และอุปกรณ์ GPS เพื่อใช้ GPS ผ่านแว่นตาได้

รู้ไว้ก่อนซื้อ! การเลือกเลนส์แว่นตา สำคัญกว่าที่คุณคิด

คนทุกคนย่อมมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน เรื่องของสายตาเองก็เช่นเดียวกัน การเลือกแว่นตาใส่ไปไหนมาไหนจึงควรต้องเลือกให้เข้ากับรูปหน้าเรามากที่สุด นอกจากแว่นตาที่ใส่จะต้องเหมาะกับเราแล้ว การเลือกเลนส์แว่นตาก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้นในการตัดแว่นสายตานั้น เราต้องคำนึงถึงสายตาของเรา รวมไปถึงเลนส์แว่นตา วันนี้เรามีข้อแนะนำในการเลือกแว่นสายตามาฝากกันค่ะ ลองดูกันนะคะว่าคุณเหมาะกับแบบไหน

เลนส์แว่นตา
เลนส์แว่นตา
  1. สายตาปกติ

สำหรับผู้ที่มีสายตาปกติ หากสนใจที่จะใส่แว่นตาก็ต้องคำนึงว่าจะนำไปใช้งานในลักษณะใด หากต้องใช้สายตาในการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือต้องเผชิญกับฝุ่นและแสงแดดบ่อยๆ ก็ควรสวมแว่นที่เป็นแว่นตากรองแสง โดยเป็นเลนส์มัลติโค้ด หรือเลนส์มัลติโค้ดเปลี่ยนสีก็สามารถช่วยป้องกันได้

  1. สายตาสั้น

ผู้ที่สายตาสั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้แว่นตาที่ขอบหนาเป็นพิเศษ และการเลือกเลนส์แว่นตาควรเลือกใช้เลนส์แบบย่อบางเคลือบแข็ง จะสามารถช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นได้

  1. สายตาสั้นและเอียง

ผู้ที่มีสายตาสั้นและเอียง ในบางครั้งจะมีอาการปวดหัว หรือมึนงง ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้แว่นตาที่มีเลนส์มัลติโค้ดเป็นส่วนประกอบ เพราะจะทำให้มองเห็นภาพได้คมชัด เพราะมีความใสกว่าเลนส์พลาสติก จึงสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้

  1. สายตายาว

สำหรับผู้ที่มีสายตายาวจะมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ลักษณะของเลนส์จะเป็นแบบที่ตรงกลางหนาเป็นพิเศษ การเลือกเลนส์แว่นตาควรเลือกแบบย่อบางเคลือบแข็ง ซึ่งสามารถทำให้มองเห็นชัดขึ้นได้เป็นอย่างดี

  1. สายตายาวและเอียง

ผู้ที่มีสายตายาวและเอียง จะมีปัญหาคล้ายๆ กับผู้ที่มีสายตาสั้นและเอียง คือในบางครั้งจะมีอาการมึนงง ดังนั้นแว่นตาที่ใช้ก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือเลนส์มัลติโค้ด เพราะจะทำให้มองภาพได้คมชัด และมีลักษณะที่ใสกว่าเลนส์พลาสติก ช่วยในการมองเห็นได้ดี

นอกจากนั้นในการเลือกเลนส์แว่นตา นอกจากจะต้องคำนึงถึงสายตาแล้ว เมื่อไปเลือกซื้อแว่นเราควรคำนึงถึงหลักต่างๆ อีก อาทิ ให้ดูผลการวัดสายตาของเราให้ดี และให้คำนึงว่าสถานที่ที่วัดให้มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะหากวัดสายตาผิดมาก็อาจทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้ ต่อมาคือดูเรื่องของลักษณะการนำไปใช้ เช่น ใช้จ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เลนส์ที่ใช้ก็ควรมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นต้น รวมไปถึงการเลือกวัสดุในการทำเลนส์ การเคลือบเลนส์ ให้ตรงตามความต้องการ และที่สำคัญควรศึกษาราคา และการรับประกัน โดยให้เรื่องของแบรนด์มาเป็นเรืองรอง เพราะถือว่าการรับประกันสินค้าสำคัญกว่าเป็นอย่างมาก

เลนส์แว่นตามีหลากหลายแบบ ดังนั้นการเลือกเลนส์แว่นตาก็ควรคำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อที่ว่าแว่นตาที่ซื้อมาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ และเกิดประโยชน์กับผู้ใช้ได้อย่างสูงสุด เพราะดวงตาของใครใครก็รัก การจะเสียเงินเพื่อดูแลตัวเองก็ไม่น่าใช่เรื่องเสียหายอะไรไม่ใช่หรือ?

ขอบคุณภาพ แว่นตา สวยๆจาก https://www.facebook.com/giftgreats/